Privacy Policy

Background and Purpose

To affirm our commitment to protecting personal data and to ensure that the collection, use, or disclosure of personal information belonging to complainants, members, or any individuals under the care of the Kratai Hope Foundation (“the Foundation”) complies with the Personal Data Protection Act B.E. 2562 (2019), the Foundation has established this Privacy Policy to guarantee that all personal data is safeguarded in accordance with the law.

Status of the Data-Collecting Organization

The Kratai Hope Foundation is a public charitable organization dedicated to supporting youth and promoting the development of martial arts. Its objectives are as follows:
  • To promote and support the development of combat sports such as Muay Thai , Boxing, Judo, Jujitsu , and Mixed Martial Arts (MMA), both in Thailand and internationally.
  • To promote and support the development of underprivileged children, youth, and people by providing educational and living support during their studies, as well as opportunities to compete in combat sports, enabling them to pursue stable careers or advance to national and international competitions.
  • To promote and support assistance in every way to individuals, organizations, or educational institutions by providing scholarships, equipment, training facilities, assets, or any form of support that benefits the field of combat sports such as Muay Thai, Boxing, Judo, Jujitsu, and Mixed Martial Arts (MMA).
  • To promote and support cooperation with institutions and organizations, both domestic and international, whose objectives involve the development and organization of competitions related to combat sports.

Collection of Personal Data

Data Collection Channels

The Foundation collects personal data directly from you through various channels, such as email, the Foundation’s website, social media platforms (e.g., Facebook, Instagram, Twitter, YouTube, or LINE), complaint forms, membership applications, telephone, mail, training sessions, events, seminars, or meetings. Personal data may also be collected from other sources, including consumer protection organizations or networks, search engines, social media, government agencies, or other external parties.

Types of Personal Data Collected

  • Personal information such as title, first name, last name, nickname, gender, age, nationality, and signature.
  • Contact information such as address, phone number, email, social media account names (e.g., LINE ID or Facebook), and records of correspondence or communication.
  • Information or copies of documents such as national ID card, household registration, name change certificate, vehicle registration, and driver’s license.
  • Complaint-related information such as details of inquiries or complaints, requested assistance, and the purpose of the complaint.
  • Account information such as user account details and usage history.
  • Technical information such as IP address, Cookie ID, and website activity log.
  • Other information such as photographs, video recordings, survey data, and any other details considered personal data under the Personal Data Protection Law.
  • Sensitive personal data: sensitive information appearing on identification documents, such as religion or disability status.

Personal Data of Third Parties

If you provide the Foundation with personal data of third parties (such as directors, authorized representatives, company signatories, parents, spouses, children, or in cases where you file a complaint on behalf of another person), you must obtain their consent and inform them of the details in this policy regarding the collection, use, disclosure, and/or cross-border transfer of their personal data.

Personal Data of Minors, Quasi-Incompetent Persons, and Incompetent Persons

If the data subject is under 20 years of age or has legal limitations on capacity, the Foundation may collect, use, or disclose their personal data only with the consent of a legal guardian. In cases where consent is required and the minor cannot legally provide it themselves, consent must first be obtained from the parent, guardian, or curator, as applicable or as permitted by law.

If the Foundation becomes aware that personal data has been collected from a minor, quasi-incompetent person, or incompetent person without the consent of a legal guardian, custodian, or curator (as applicable), the Foundation will promptly delete such personal data as soon as practicable.

Use of Personal Data

The Foundation will collect, use, or disclose your personal data only as necessary or as required by law, for the following purposes:

  • To create and manage user accounts.
  • To improve services or enhance user experience.
  • For organizational management purposes.
  • To comply with the Terms and Conditions.
  • To establish, comply with, exercise, or defend legal claims.
  • For communication and coordination purposes, including receiving complaints through various communication channels.
  • To create and maintain a consumer complaint database, as well as for reporting, statistical, research, data analysis, and feedback collection purposes.
  • For public communication purposes.
  • เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบของหน่วยงานราชการ

ทั้งนี้ เว้นเฉพาะกรณีที่มูลนิธิฯ ระบุไว้ว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจะอาศัยความยินยอมจากท่าน

ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

มูลนิธิฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นในระหว่างที่ท่านเป็นผู้ใช้งานระบบหรือมีความสัมพันธ์อยู่กับมูลนิธิฯ หรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้น หากมีกฎหมายกำหนดไว้ มูลนิธิฯ จะลบ ทำลาย หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

มูลนิธิฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่ผู้อื่นภายใต้ความยินยอมของท่านหรือที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ ดังต่อไปนี้

  • การบริหารจัดการภายในองค์กร : มูลนิธิฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในองค์กรเท่าที่จำเป็นเพื่อปรับปรุงและพัฒนาบริการของมูลนิธิฯ
  • องค์กรหรือหน่วยงานเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค : มูลนิธิฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับองค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อการดำเนินกการแก้ไขปัญหา ให้คำปรึกษา ในการทำงานคุ้มครองผู้บริโภค
  • การสื่อสารสาธารณะ : มูลนิธิฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนลักษณะปัญหา ข้อเท็จจริงของลักษณะปัญหา เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค เพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อเป็นกรณีศึกษาแก่ผู้บริโภครายอื่น เว้นเฉพาะ บางกรณีที่ต้องเผยแพร่ข้อมูลส่วนที่ละเอียดอ่อน เช่น ชื่อ นามสกุล จะเปิดเผยก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือต่อเมื่อกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้
  • ผู้สนับสนุนทุน : มูลนิธิฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบางอย่างให้กับผู้สนับสนุนทุนดำเนินงานของมูลนิธิฯ เท่าที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติตามเงื่อนไขการรับทุน
  • การบังคับใช้กฎหมาย : ในกรณีที่มีกฎหมายหรือหน่วยงานราชการร้องขอ มูลนิธิฯ จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นให้แก่หน่วยงานราชการ เช่น ศาล หน่วยงานราชการ เป็นต้น

การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

มูลนิธิฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยัง บุคคล องค์กร หรือเซิร์ฟเวอร์ (Server) ที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ โดยมูลนิธิฯ จะดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังประเทศปลายทางนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอ หรือกรณีอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด

การโฆษณาและการตลาด

เพื่อประโยชน์ในการได้รับสินค้าหรือบริการของมูลนิธิฯ มูลนิธิฯ อาจส่งข้อมูลหรือจดหมายข่าวไปยังอีเมลของท่าน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอสิ่งที่น่าสนใจกับท่าน หากท่านไม่ต้องการรับการติดต่อสื่อสารจากมูลนิธิฯ ผ่านทางอีเมลอีกต่อไป ท่านสามารถติดต่อมายังอีเมลของมูลนิธิฯ ได้

นโยบายการใช้เทคโนโลยีติดตามตัวบุคคล หรือคุกกี้ (Cookies)

มูลนิธิฯ มีการใช้เทคโนโลยีติดตามตัวบุคคล หรือคุกกี้ (Cookies) ถ้าท่านอนุญาตให้ใช้งานการติดตามตัวบุคคล หรือคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน จะทำให้การใช้งานเว็บไซต์ของท่านสะดวกขึ้น เนื่องจากการติดตามตัวบุคคล หรือคุกกี้ (Cookies) จะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่ท่านเคยเยี่ยมชมหรือเข้าถึง หากท่านไม่ต้องการให้มีเทคโนโลยีติดตามตัวบุคคล หรือคุกกี้ (Cookies) ไว้ในคอมพิวเตอร์ของท่าน ท่านสามารถตั้งค่าบราวเซอร์เพื่อปฏิเสธคุกกี้ก่อนที่จะใช้เว็บไซต์ของมูลนิธิฯ ได้

ทั้งนี้ เว็บไซต์จะใช้ข้อมูลคุกกี้ที่ได้รวบรวมไว้เพื่อการวิเคราะห์เชิงสถิติ และ/หรือ เพื่อกิจกรรมอื่นของมูลนิธิฯ เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการของมูลนิธิฯ ให้ดียิ่งขึ้น

มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

การรักษาความมั่งคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

มูลนิธิฯ จะรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามหลักการ การรักษาความลับ (confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (availability) ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผย นอกจากนี้มูลนิธิฯ จะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (administrative safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (technical safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (physical safeguard) ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล (access control)

การแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่มีเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเกิดขึ้น มูลนิธิฯ จะแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยไม่ชักช้าภายใน 72 ชั่วโมง นับแต่ทราบเหตุเท่าที่สามารถกระทำได้ ในกรณีที่การละเมิดมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของท่าน มูลนิธิฯ จะแจ้งการละเมิดให้ท่านทราบพร้อมกับแนวทางการเยียวยาโดยไม่ชักช้าผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น

การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

มูลนิธิฯ อาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้เป็นครั้งคราว โดยท่านสามารถทราบข้อกำหนดและเงื่อนไขนโยบายที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนี้ได้ผ่านทางเว็บไซต์ของมูลนิธิฯ

นโยบายนี้แก้ไขล่าสุดและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565

นโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์อื่น

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้สำหรับการเสนอบริการ และการใช้งานบนเว็บไซต์สำหรับผู้ใช้ของมูลนิธิฯ เท่านั้น หากท่านเข้าชมเว็บไซต์อื่นแม้จะผ่านช่องทางเว็บไซต์ของมูลนิธิฯ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ จะเป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเว็บไซต์นั้น ซึ่งมูลนิธิฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

ผลที่อาจจะเกิดขึ้น หากไม่ให้ข้อมูลทั้งหมดหรือบางส่วน

การที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับมูลนิธิฯ อาจส่งผลกระทบต่อท่านคือ มูลนิธิฯ อาจไม่สามารถดำเนินการตามที่ท่านร้องขอได้ โดยมูลนิธิฯ อาจไม่สามารถให้ความช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ หรือเสนอบริการของมูลนิธิฯ ให้ท่านได้ตามความต้องการ อาจทำให้ท่านไม่ได้รับความสะดวก

สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้ท่านมีสิทธิ ดังต่อไปนี้

  1. สิทธิขอถอนความยินยอม (right to withdraw consent) หากท่านได้ให้ความยินยอม มูลนิธิฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวมรวม การนำไปใช้ หรือการเผยแพร่ข้อมูลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้ว
  2. สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล (right to access) ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของมูลนิธิฯ และขอให้มูลนิธิฯ ทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้มูลนิธิฯ เปิดเผยว่ามูลนิธิฯ ได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร
  3. สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล (right to data portability) ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่มูลนิธิฯ ได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้มูลนิธิฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
  4. สิทธิขอคัดค้าน (right to object) ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมูลนิธิฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผลหรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์
  5. สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล (right to erasure/destruction) ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือเห็นว่ามูลนิธิฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
  6. สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล (right to restriction of processing) ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่มูลนิธิฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่านหรือกรณีอื่นใดที่มูลนิธิฯ หมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้มูลนิธิฯ ระงับการใช้แทน
  7. สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล (right to rectification) ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  8. สิทธิร้องเรียน (right to lodge a complaint) ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ท่านสามารถใช้สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นได้ โดยติดต่อมาที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของมูลนิธิฯ ตามรายละเอียดท้ายนโยบายนี้ มูลนิธิฯ จะแจ้งผลการดำเนินการภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่มูลนิธิฯ ได้รับคำขอใช้สิทธิจากท่าน ตามแบบฟอร์มหรือวิธีการที่มูลนิธิฯ กำหนด ทั้งนี้ หากมูลนิธิฯ ปฏิเสธคำขอมูลนิธิฯ จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย

Contact Channels

For inquiries regarding personal data collected by the foundation or to exercise your data subject rights, please contact:

Data Controller

Kratai Hope Foundation
34/5 Moo 12, Plubpla Subdistrict, Mueang Chanthaburi District, Chanthaburi 22000 Thailand
Website: https://krataihope.org

Data Protection Officer

34/5 ม.12 ต.พลับพลา อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทุบรี 22000
email: [email protected]